ขายที่ดินเสมือน Ember Sword

Ember Sword เป็นเกมประเภทผู้เล่นหลายคนเล่นตามบทบาท (Massive Multiplayer Online Role-Playing Game: MMORPG) แบบเล่นได้ฟรีและเป็นธีมที่อยู่ในยุคกลาง ซึ่งมันถูกสร้างขึ้นบนเครือข่าย Ethereum Blockchain ซึ่งเกมได้นำเสนอประสบการณ์แบบ Sandbox ที่ให้ความเป็นอิสระแก่ผู้เล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งหมายความว่าผู้เล่นไม่จำเป็นต้องเลือกคลาสหรือบทบาทเฉพาะก็ได้ นอกจากนี้เกมนี้ยังให้คำมั่นสัญญาว่าระบบเศรษฐกิจจะขับเคลื่อนโดยผู้เล่น มีระบบการต่อสู้ที่ไร้คลาส และของสะสมที่หายากแต่ซื้อขายได้

รูปแบบของการเล่นจะค่อนข้างตรงไปตรงมาและไม่ซับซ้อน โดยผู้เล่นจะมีอิสระเต็มที่ในสิ่งที่ทำและสามารถเลือกภูมิภาคบ้านเกิดได้ รวมถึงสามารถสำรวจโลกที่เปิดกว้างของ Thanabus เพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ ประดิษฐ์สิ่งของ และต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่นหรือสัตว์ประหลาด เป็นต้น นอกจากนี้ในแต่ละภูมิภาคใน Ember Sword มีภารกิจ มอนสเตอร์ และทรัพยากรระดับพิเศษอีกด้วย โดยผู้เล่นสามารถใช้งานทรัพยากรเหล่านี้หรือจะนำไปขายก็ได้เช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้นก็มีทักษะมากมายใน Ember Sword ที่ผู้เล่นสามารถรับและพัฒนาได้ เช่น ทักษะการต่อสู้ด้วยพลังงาน การตกปลา การขุด การเก็บเกี่ยว การตีเหล็ก และอื่น ๆ อีกมากมาย ยิ่งผู้เล่นฝึกฝนมากเท่าไหร่ ระดับทักษะก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น ซึ่งระดับที่สูงขึ้นก็จะสามารถปลดล็อกความสามารถใหม่ ๆ เช่น ความสามารถใหม่ในการร่ายคาถาและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นกิจกรรมภายในเกมจึงแทบจะไม่มีที่สิ้นสุด

โลกของ Ember Sword ถูกควบคุมโดยผู้เล่นอย่างสมบูรณ์ผ่านการเป็นเจ้าของที่ดิน โดยเจ้าของที่ดินจะสามารถพัฒนาโลกเสมือนจริงของตนเองได้ด้วยการวางทรัพยากร NPC มอนสเตอร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยพวกเขาสามารถสร้างบริการและประสบการณ์ที่หลากหลายได้ เช่น ตลาดผู้ขาย เพื่อหารายได้จากที่ดินของตนเอง ซึ่งรายได้ที่เกิดจากที่ดินจะมาในรูปแบบของสกุลเงินพรีเมียมของ Ember Sword ที่เป็นโทเคน ERC-20

Ember Sword ได้รับการพัฒนาโดย Bright Star Studios Limited ซึ่งประกอบด้วยทีมพัฒนาเกมที่มีประสบการณ์ที่เป็นผู้นำโปรเจ็กต์ต่าง ๆ เช่น Guild Wars, Aquanox, TankWars, Blitzkrieg และ Kaos War และวิสัยทัศน์ของทีมพัฒนาคือการสร้าง The Next Generation Free-to-Play ในการเล่นเกมประเภท MMORPG อีกทั้งยังมีเป้าหมายในการสร้างรายได้จาก Blockchain Gaming แบบที่ไม่ต้องใช้วิธีการสุ่มกาชาและระบบ Pay-to-Win แบบเกมอื่น ๆ ซึ่งทีมพัฒนาต้องการส่งเสริมให้ศิลปินสามารถสร้างรายได้ได้จากงานของตนเอง ด้วยการเสนอสิทธิ์ความเป็นเจ้าของที่แท้จริงเหนือกว่าการเป็นเพียงแค่ไอเทมเสมือนจริงทั่วไป และสามารถสร้างโลกเสมือนจริงที่ควบคุมโดยผู้เล่นอย่างสมบูรณ์

ปัจจุบันนี้เกมกำลังอยู่ในช่วง Pre-Alpha และการทดสอบระบบจะมีขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 โดยทีมพัฒนาได้วางแผนที่จะเปิดเมืองหลวงที่ชื่อว่า “Solarwood” ในระหว่างการทดสอบอัลฟา ซึ่งมันจะเป็นประเทศแรกที่อยู่บนโลกเสมือนของ Ember Sword โดยจะมีการเพิ่มฟีเจอร์และจะให้เล่นในเวอร์ชั่นนี้ตลอดปี 2022 โดยในส่วนของประเทศอื่น ๆ มีแผนจะเปิดตัวในปี 2023 เป็นต้นไป

ถึงแม้ว่าเกมจะยังไม่เปิดตัวแต่ก็ได้รับความสนใจจากสาธารณชนเป็นอย่างมาก หลังจากที่มีผู้สนใจกว่า 35,000 คนได้ร่วมลงทุนเป็นเงินกว่า 203 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อซื้อที่ดินเสมือนจริงในเกม ซึ่งในเดือนพฤษภาคม 2021 เกมนี้ดังกล่าวนี้ได้เปิดการระดมทุนรอบ 2 และได้เงินไปกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีทุนร่วมจาก CoinGecko Ventures, Delphi Digitals และ Animoca Brands

มีสินทรัพย์เสมือนจริง 2 ประเภทหลักใน Ember Sword ได้แก่:

ที่ดิน

LAND เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีค่ามากใน Ember Sword โดยการเป็นเจ้าของ LAND นั้นหมายถึงผู้เล่นจะเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของโลกเสมือนจริง โดยจะมีที่ดิน NFT ที่สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ และสามารถรับส่วนแบ่งผลตอบแทนทั้งหมดที่เกิดจากที่ดินของตนเองได้อีกด้วย ซึ่งเจ้าของที่ดินสามารถเพิ่มผลกำไรสูงสุดได้ด้วยการปรับปรุงที่ดินและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ รวมถึงการสร้างสิ่งที่เรียกว่า Monster Camp ขนาดเล็ก เปิดแผงขายงานฝีมือของช่างตีเหล็ก และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้แล้วที่ดินยังสามารถปล่อยขายหรือค้าเทรดด้วยเงินจริงในตลาดต่าง ๆ มากมายได้อีกด้วย

LAND ใน Ember Sword มีหลากหลายขนาด เริ่มต้นตั้งแต่ขนาด 1x1 ไปจนถึง 20x20 โดยผู้เล่นสามารถทำการซื้อที่ดินได้ 4 ประเภท ได้แก่:

• Regular คือรูปแบบพื้นฐานของที่ดินใน Ember Sword โดยเจ้าของที่ดินประเภทนี้จะได้รับตำแหน่งที่เรียกว่า Sir/Lady และมีลักษณะเฉพาะที่จะถูกปลดล็อกเมื่อทำภารกิจในเกมสำเร็จ โดยลักษณะดังกล่าวอาจรวมถึงแหล่งทรัพยากร บ้าน NPC ที่ตั้งแคมป์ การวางไข่ของมอนสเตอร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย
• Settlement เป็นที่ดินที่ผู้เล่นสามารถวางสิ่งปลูกสร้างขนาดเล็กได้ โดยผู้เล่นสามารถวางสิ่งปลูกสร้างใดก็ได้ที่ต้องการบนที่ดิน เช่น บ้านกิลด์ขนาดเล็ก บ้านของผู้เล่น ร้านค้าของผู้เล่น สถานีเติมเสบียง และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเจ้าของที่ดินประเภท Settlement จะได้รับตำแหน่งที่ชื่อว่า Baron/Baroness
• Town เป็นที่ดินที่มีขนาดใหญ่กว่า 2 ประเภทแรก ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นได้เปรียบมากขึ้น และเจ้าของสามารถวางสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ที่สามารถทำงานเฉพาะด้านได้ เช่น สถานีปรับแต่ง บ้านกิลด์ขนาดกลาง และสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ มากมาย นอกจากนี้เจ้าของยังสามารถสร้างการแลกเปลี่ยนต่าง ๆ ได้ โดยสิ่งปลูกสร้างบางประเภทบนที่ดินจะช่วยให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงเครือข่ายซื้อขายไอเทมระดับโลกได้ และผู้ที่ซื้อที่ดินประเภทนี้จะได้รับตำแหน่ง Earl/Countess
• City เป็นที่ดินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่ผู้เล่นสามารถซื้อได้ใน Ember Sword โดยหน้าที่ของ City ต่าง ๆ คือการเป็นศูนย์กลางทางกิจกรรมทางการค้า นอกจากนี้ผู้เล่นสามารถเพิ่มสิ่งปลูกสร้างและกิลด์ที่ใหญ่ที่สุดได้ รวมถึงสามารถสร้างบ้านกิลด์ขนาดใหญ่ จุดซื้อขายยานพาหนะ ประตูมิติ และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดินประเภทนี้จะได้รับตำแหน่ง Duke and Duchess

ที่ดินบนโลกเสมือนของ Ember Sword มีทั้งหมด 160,000 แปลง โดยการเปิดขายที่ดินครั้งแรกนั้นได้เปิดขายในประเทศเสมือนจริงที่ชื่อว่า Solarwood ซึ่งมีที่ดิน 40,000 แปลง

Cosmetic

สกิน อวตาร์ อีโมติคอน พื้นผิวสำหรับสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน และอื่น ๆ อีกมากมาย จะถูกเรียกรวมกันว่า “Cosmetic” ซึ่งมันจะแสดงเป็นรูปแบบของการ์ด ที่ผู้เล่นจะมีโอกาสได้รับเมื่อเผชิญหน้ากับบอสของเกมหรือในเขตหวงห้ามของเกม นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถสร้าง Cosmetic ของตนเองและอัปโหลดไปยังเกมได้อีกด้วย และไม่ว่าจะได้มาจากเกมหรือสร้างด้วยตนเองก็ตาม Cosmetic ทุกรายการนั้นสามารถซื้อและขายในร้านขายของในเกมหรือนอกเกมได้เช่นกัน

โทเคนที่ใช้บนแพลตฟอร์ม Ember Sword มีชื่อเรียกว่า “Ember” (ก่อนหน้านี้มีชื่อว่า PIXEL Token) โดยมันเป็นโทเคนที่ถูกสร้างขึ้นด้วยโปรโตคอล ERC-20 ที่ใช้ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจทั้งหมดของ Ember Sword โดยผู้เล่นสามารถใช้โทเคนนี้เพื่อซื้อขาย LAND และ Cosmetic ในเกมได้

1. มีนักลงทุนที่น่าเชื่อถือร่วมลงทุน - Ember Sword ได้รับเงินทุน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการริเริ่มก่อตั้งจากนักลงทุนที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น CoinGecko Ventures, Delphi Digital และ Animoca Brands เป็นต้น
2. เติบโตอย่างรวดเร็ว - ถึงแม้ว่า Ember Sword จะมีกำหนดการเปิดตัวในปี 2022 นี้ แต่ก็ได้รับความสนใจจากสาธารณชนเป็นอย่างมาก หลังจากที่มีนักลงทุนกว่า 35,000 คน ได้ร่วมให้เงินเป็นมูลค่ารวมกว่า 203 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อที่ดินเสมือนจริงในแพลตฟอร์ม นอกจากนี้สมาชิก Ember Sword Discord ก็มีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน
3. ผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของที่ดินจะต้องลงทะเบียน - ความแตกต่างจากแพลตฟอร์ม Blockchain Gaming อื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่จะนำเสนอสินทรัพย์ NFT ของตนเองแบบ first-come-first-served (มาก่อนได้ก่อน) แต่ผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของที่ดินใน Ember Sword นั้นจะต้องทำการลงทะเบียนเพื่อส่งข้อมูลไปให้ทีมงานของแพลตฟอร์ม โดยคุณจำเป็นต้องกรอกแบบสอบถามว่าคุณจะช่วยให้ชุมชนนี้เติบโตได้อย่างไร ซึ่งทางทีมงานจะอนุญาตให้ผู้สมัครที่ผ่านการพิจารณาทำการซื้อที่ดินได้เท่านั้น ดังนั้นจึงทำให้ที่ดินในโลกเสมือนจริงของแพลตฟอร์มนี้มีความหายากและมีความพิเศษมากยิ่งขึ้น