ขายที่ดินเสมือน Earth 2

Earth 2 เป็นโลกเสมือนจริงที่อ้างอิงจากโลกแห่งความจริงแบบ 1:1 ซึ่งตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ในโลกแห่งความจริงจะสอดคล้องกับตำแหน่งพิกัดต่าง ๆ ในแผนที่ของโลกเสมือนจริงบนแพลตฟอร์ม Earth 2 โดยจะมีเลเยอร์กริดดิจิทัลที่จะเชื่อมโยงพิกัดครอบคลุมทั่วโลก เพื่อให้ผู้คนสามารถอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของในที่ดินเสมือนจริงในรูปแบบของแปลงที่ดิน ที่ผู้เล่นสามารถซื้อ ขาย และประมูลที่ดินเหล่านี้ได้อีกด้วย

มีแปลงที่ดินบนแผนที่ประมาณ 1.5 ล้านล้านแปลงใน Earth 2 ซึ่งที่ดินแต่ละแปลงมีขนาดประมาณ 10x10 เมตร และที่ดินเสมือนจริงจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปเหมือนที่ดินในโลกจริง ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง อุปสงค์ และศักยภาพในการสร้างเงิน

เป้าหมายหลักของ Earth 2 คือความยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งทีมพัฒนาที่อยู่เบื้องหลังกำลังเปิดตัวเฟสต่าง ๆ มากมายที่จะค่อย ๆ นำไปสู่รูปแบบสมบูรณ์ของ Earth 2 โดยเฟสที่ 1 จะเปิดให้ผู้เล่นสามารถเคลม ซื้อ เทรด บิดราคา และวิเคราะห์ที่ดินเบื้องต้นได้ และในระยะที่ 2 ที่ดินเสมือนจริงจะสร้างทรัพยากรประเภทต่าง ๆ ที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและการก่อสร้างใน Metaverse นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถปรับใช้ Holdbuildings ในที่ดินเสมือนจริงเฟส 2 ซึ่งในเฟสต่อไปผู้เล่นจะสามารถรวบรวมและประมวลผลทรัพยากร สร้างบ้าน ปรับภูมิทัศน์ และเช่าสินทรัพย์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย

Earth 2 ได้รับการพัฒนาโดยทีมพัฒนามืออาชีพที่มีประสบการณ์มานานหลายสิบปีในด้านซอฟต์แวร์, การพัฒนาเกม, อสังหาริมทรัพย์, ธุรกิจ, VR, AR, การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยมี Shane Isaac ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Earth 2 รวมถึงเขายังเป็นกรรมการผู้จัดการของ XYZ Social Media ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียและแอปคอมมูนิตี้ยุคใหม่ในออสเตรเลีย

ทีมพัฒนาที่อยู่เบื้องหลัง Earth 2 ได้สร้างแพลตฟอร์มนี้ขึ้นมาเพราะพวกเขารู้สึกว่ามันมีความจำเป็นสำหรับการเป็นตัวกลางที่รวบรวม VR, การสัมผัสได้จริง และเทคโนโลยีที่คล้ายกัน เพื่อให้ผู้คนได้เพลิดเพลินและใช้งานในโลกที่เปิดกว้างแต่ยังคงคุ้นเคย ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายของทีมคือการนำผู้คนและเทคโนโลยีมารวมกัน ด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มเกมและแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่สนับสนุนชุมชนและระบบเศรษฐกิจเสมือนจริง กล่าวอีกนัยหนึ่งคือทีมพัฒนาต้องการสร้างตัวแทนดิจิทัลของโลกที่ผู้คนสามารถอยู่อาศัย สร้าง แลกเปลี่ยน ใช้ชีวิต มีปฏิสัมพันธ์ และสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้

นับตั้งแต่เปิดตัวในปลายปี 2020 Earth 2 ก็มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรมากมาย เช่น Mapbox, 5CA, Auth0 และ Jumio เป็นต้น แพลตฟอร์มนี้มีแผนที่จะทำงานแบบกระจายศูนย์และสามารถแปลงสินทรัพย์ดิจิทัลในเกมเป็นคริปโตได้ ซึ่งในช่วงปลายปี 2021 Earth 2 ได้ประกาศการรวมเข้ากับโซลูชัน Commit Chain ของ Polygon ที่จะย้ายแพลตฟอร์มและชุมชนไปยัง Web 3.0 ทำให้ผู้เล่นสามารถเป็นเจ้าของและควบคุมที่ดินเสมือนจริงได้โดยตรง อีกทั้งยังมอบวิธีการที่น่าเชื่อถือแก่ผู้เล่นในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจที่แท้จริงจากการมีส่วนร่วมในแพลตฟอร์ม

มีหลายประเทศที่ได้รับความนิยมอย่างมากบน Earth 2 อ้างอิงจากจำนวนที่ดินที่ขายออกไปแล้ว ได้แก่ เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา อิตาลี แคนาดา และเยอรมนี เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเมืองต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมและเป็นเมืองที่มีผู้คนต้องการครอบครองที่ดินในพื้นที่ด้วยเช่นกัน เช่น ลอนดอน นิวยอร์ก และดูไบ เป็นต้น อย่างไรก็ตามยังมี Megacity หรือเมืองใหญ่ ๆ อีกมากมายที่อยู่นอกประเทศเหล่านั้น ซึ่งได้รับความนิยมมากไม่แพ้กัน โดยเมืองใหญ่ก็เป็นมหานครเสมือนจริงที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้เล่นทำการซื้อที่ดินในพื้นที่ห่างไกลจำนวนมากและนำมาผสานรวมกันเป็นที่ดินผืนเดียว

Megacity บางแห่งมีเค้าโครงมาจากธีมเฉพาะ เช่น สวนสนุก การพนัน ตะวันตก หรือแม้แต่เมืองใต้น้ำ ซึ่งบางเมืองก็ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นของขวัญให้กับบุคคลในชีวิตจริง ในขณะที่เมืองอื่น ๆ ถูกสร้างขึ้นเพื่อแสดงศิลปะบนที่ดินที่สร้างสรรค์โดยผู้เล่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Megacity ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในแพลตฟอร์ม Earth 2 มีดังต่อไปนี้

• Zigurat City ตั้งอยู่ในซาฮาราตะวันตก
• Eye of Sahara ตั้งอยู่ในมอริเตเนีย
• Chavez City ตั้งอยู่ในทวีปแอนตาร์กติกา
• Hope City ตั้งอยู่ในตองกา
• Elysium ตั้งอยู่ในเจอร์ซีย์

ในขณะที่เขียนอยู่นี้ Earth 2 มีสินทรัพย์ประเภทเดียวเท่านั้นที่ผู้เล่นสามารถซื้อได้นั่นคือแปลงที่ดิน ซึ่งมีแปลงที่ดินหลายล้านล้านแผ่นที่ขยายไปทั่วทั้งโลกเสมือนจริงแห่งนี้ แต่ละแปลงมีขนาด 10x10 เมตรที่สามารถสร้างอัญมณีและสิ่งที่เรียกว่า Essence ได้อีกด้วย โดยในอนาคตผู้เล่นจะสามารถปรับแต่งแปลงที่ดินของตนเองได้ตามต้องการ โดยมีฟีเจอร์ใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างมุมมองแบบ 3D และสามารถสร้างธุรกิจของตนเองบนพื้นที่เสมือนจริงได้

แปลงที่ดินทุกแปลงมีการแบ่งระดับชั้น ซึ่งที่ดินระดับที่ 1 จะสามารถสร้างอัญมณี รายได้จากภาษี และมีกรณีการใช้งานที่เรียกว่า Essence มากกว่าที่ดินระดับที่ 2 รวมถึงยังสามารถค้นพบทรัพยากรได้มากกว่า, การกำกับดูแลอย่างเต็มรูปแบบ, โบนัสจาก Referral Code 7.5%, และโบนัสเพิ่มเติมอีกมากมายที่จะปล่อยออกมาเรื่อย ๆ นอกจากนี้ที่ดินระดับ 1 จะสามารถรองรับโฆษณาได้ในอนาคตอีกด้วย

แปลงที่ดินที่ถูกซื้อไปหลังวันที่ 4 ธันวาคม 2021 จะถูกจัดเป็นที่ดินระดับ 2 เป็นค่าเริ่มต้นโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามเจ้าของที่ดินสามารถอัปเกรดที่ดินระดับ 2 เป็นระดับ 1 ได้ด้วยการใช้ Essence

ณ เดือนมกราคม 2022 Earth 2 ยังไม่มีโทเคนหรือสกุลเงินดั้งเดิมประจำเครือข่าย แต่อย่างไรก็ตามก็มีเป้าหมายที่จะทำให้ Essence กลายเป็นสกุลเงินของ Earth 2 อีกด้วย ซึ่งหลักการทำงานของ Essence ได้ถูกวางแผนให้ทำงานบนเทคโนโลยี Blockchain ดังนั้นมันจะกลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลสกุลใหม่ ที่ผู้ใช้งานจะสามารถรับได้โดยเพียงแค่เป็นเจ้าของที่ดินบน Earth 2

1. มีช่องทางมากมายที่ทำเงินได้จริง - มีหลากหลายวิธีที่เจ้าของที่ดินสามารถสร้างรายได้ได้จากที่ดินของตนเองในวันข้างหน้า เช่น เจ้าของที่ดินสามารถปล่อยเช่าที่ดินให้กับผู้เล่นรายอื่น เพื่อให้พวกเขาสร้างอสังหาริมทรัพย์ ขุดทรัพยากร จัดตั้งธุรกิจ สร้างเนื้อหา หรือจัดหาพื้นที่โฆษณา โดยเจ้าของที่ดินจะสามารถรับผลตอบแทนได้จากเงินภาษีที่ผู้เช่าจ่ายนั่นเอง
2. Referral System - Earth 2 เป็นหนึ่งใน Metaverses ไม่กี่แพลตฟอร์มที่มีการใช้ระบบ Refferal Code ซึ่งเมื่อคุณกำลังจะซื้อที่ดินบนแพลตฟอร์มนั้น คุณสามารถกรอกรหัส Referral Code ของผู้เล่นรายอื่น เพื่อที่คุณทั้งคู่จะได้รับเครดิตคืนถึง 7.5% โดยสามารถถอนโบนัสออกไปใช้หรือนำไปซื้อที่ดินเพิ่มได้
3. การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง - ในปัจจุบันซอฟต์แวร์ของ Earth 2 ทำงานได้ดีมาก แต่ทางทีมงานยังคงปรับปรุงและพัฒนาแพลตฟอร์มให้ดียิ่งขึ้น