ขายที่ดินเสมือน CryptoVoxels

CryptoVoxels เป็นโลกเสมือนจริงที่ถูกพัฒนาขึ้นบนเครือข่าย Ethereum Blockchain ซึ่งถือเป็นโลกเสมือนจริงหรือ VBM ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกหากเทียบจากพื้นที่ทั้งหมด แต่ในทางกลับกัน CryptoVoxels เป็นโลกเสมือนจริงเพียงเจ้าเดียวที่สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีขีดจำกัดว่าจะเติบโตได้มากที่สุดแค่ไหน ซึ่งแผนที่เดิมของ CryptoVoxels Metaverse ประกอบด้วยที่ดินเพียงแค่ 3,026 แปลงเท่านั้น โดยที่ดินจะมีขนาดและรูปทรงแตกต่างกัน แต่ขนาดของที่ดินจะสามารถขยายออกไปพร้อม ๆ กับการสร้างเกาะและที่ดินแปลงใหม่ภายในแพลตฟอร์มเป็นระยะ ๆ

โดยภายในโลกเสมือนจริงของ CryptoVoxels ประกอบด้วยเมืองหลักคือ “Origin City” ซึ่งผู้ใช้สามารถค้นหาถนน (ที่เป็นเจ้าของโดยหน่วยงานหรือบริษัท) และที่ดินสาธารณะเพื่อทำการซื้อได้ โดยผู้ใช้งานที่เป็นเจ้าของที่ดินสามารถสร้าง พัฒนา และขายสินทรัพย์ของตนเองได้ตามต้องการ อีกทั้งยังสามารถเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย เช่น รูปภาพ, ปุ่ม, เสียง, วิดีโอ, GIF, Voxel, Model และข้อความ 3 มิติ เป็นต้น นอกจากนี้เจ้าของที่ดินยังสามารถพัฒนาที่ดินของตนเองให้เป็นแบบ Sandbox ได้อีกด้วย และผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดินใน CryptoVoxels สามารถสร้างผลตอบแทนจากที่ดินของตนเองได้ หรือแม้กระทั่งสร้างรายได้แบบ Passive Income ในขณะเดียวกันผู้ใช้งานทุกคนสามารถออกสำรวจ ออกไปเที่ยวกับเหล่าเพื่อน ๆ เสมือนจริง และมีประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครใน CryptoVoxels แน่นอนว่าทุกกิจกรรมบนโลกแห่งความจริงก็สามารถเกิดขึ้นได้ในโลกเสมือนจริงด้วยเช่นกัน

สามารถกล่าวได้ว่า CryptoVoxels เป็นหนึ่งในโลกเสมือนจริงที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นในการสร้างโลกเสมือนจริงของตนเอง โดยผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์พิเศษใด ๆ ในการเริ่มต้นสร้าง ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเริ่มสร้างได้ทันทีโดยใช้อินเทอร์เฟซแบบลากและวางที่ใช้งานกันทั่วไปในปัจจุบันนี้ นอกจากนี้ CryptoVoxels ยังสามารถใช้ได้ทั้งในโหมด 2D และ VR รวมถึงรองรับชุดแว่น VR หลากหลายรุ่นอีกด้วย

CryptoVoxels ได้รับการพัฒนาจากบริษัทพัฒนาเกมอิสระที่ชื่อว่า “Nolan Consulting” ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในเมืองเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ โดยมีทีมพัฒนาที่นำโดย Ben Nolan ผู้ก่อตั้ง ซึ่งเขาเป็นผู้พัฒนา CryptoVoxels เพียงคนเดียวมาเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตามเนื่องจากแพลตฟอร์มได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีการเพิ่มนักพัฒนาซอฟต์แวร์รายอื่น ๆ เข้ามาในทีม

CryptoVoxels เริ่มต้นจากโครงการเพื่อสร้าง Meatverse บนเว็บไซต์ให้มีภาพรวมออกมาในรูปแบบเดียวกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง Ready Player One โดยโครงการนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากงานก่อนหน้าของทีมพัฒนาอย่าง A-FrameVR และ SceneVR เมื่อทางทีมเห็นความเป็นไปได้ของโลกเสมือนจริงที่สามารถบันทึกการถือครองที่ดินบนเครือข่าย Ethereum Blockchain ได้ พวกเขาจึงทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการเนรมิตโลกเสมือนจริงที่ทุกคนสามารถสร้างอะไรก็ได้ตามต้องการ

ในเดือนพฤษภาคม 2018 โครงการ CryptoVoxels เปิดตัวครั้งแรกในรุ่นเบต้า ต่อมาในเดือนมิถุนายนของปีเดียวกันก็ได้มีการแจกจ่ายที่ดินเบื้องต้นให้กับทีมพัฒนาและทีมที่ปรึกษาที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจึงทำการปล่อยขายให้กับผู้ที่ต้องการซื้อรายแรก ๆ โดยทีมงานได้ทำการนำรหัสเบต้าออกในเดือนกรกฎา 2018 และในที่สุดก็สามารถเปิดให้ทุกคนสามารถทำการซื้อได้อย่างสมบูรณ์

เอกลักษณ์เฉพาะตัวของ CryptoVexels นั่นคือผู้ก่อตั้งไม่ได้ระดมเงินเพื่อสนับสนุนโครงการด้วยวิธีการระดมทุนทางดิจิทัล (ICO) แบบทันที ถึงแม้ว่าจะมีข้อเสนอมากมายจากบุคคลทั่วไป ไปจนถึงบริษัทร่วมทุนรายใหญ่ในการหารือเกี่ยวกับการลงทุน แต่ผู้ก่อตั้งมุ่งมั่นที่จะหาทุนด้วยตนเองเพื่อรักษาเสถียรภาพในการสร้างสรรค์และไม่สูญเสียความสามารถในการสร้างโลกเสมือนจริงให้เติบโตได้ตามที่เขาต้องการ โดยเขาให้ทุนกับโลกเสมือนจริงด้วยการขายที่ดินบางส่วนย่านใจกลางเมือง ซึ่งเขาได้ขายที่ดินราคาต่ำในช่วงแรก ต่อมาเมื่อยอดขายเริ่มสูงขึ้นเขาจึงได้ปรับราคาให้สูงขึ้นตามกลไกตลาด

แผนที่ CryptoVoxels ถูกแบ่งออกเป็นย่านต่าง ๆ ที่มีความแตกต่างกัน โดยบรรดาย่านทั้งหมดจะเป็นส่วนหนึ่งของ Origin City ที่เป็นเมืองหลวงของโลกเสมือนจริง ซึ่งในช่วงแรกเริ่มนั้นทุกย่านถูกสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงธีมเป็นหลักแต่ก็ไม่ได้มีการบังคับใช้อย่างจริงจัง เพื่อให้ความเป็นอิสระแก่ผู้เล่นทุกคนในการสร้างสิ่งที่ตนเองต้องการ ดังนั้นในแต่ละย่านจึงมีความหลากหลายของสิ่งปลูกสร้างมากมาย

มีย่านที่ถูกแบ่งอย่างเป็นทางการทั้งหมด 63 ย่านในโลกเสมือนจริงของ CryptoVoxels โดยย่านที่ตั้งอยู่ใกล้กับใจกลางของ Origin City จะได้รับความนิยมมากที่สุด เช่น The Centre, West End, North Terrace, Music District, Makers, Deep South, Fantasy Fields, Le Marais, Doom และ Frankfurt เป็นต้น นอกจากย่านต่าง ๆ ที่อยู่บนเกาะหลักแล้ว ยังมีเกาะเล็ก ๆ อีกมากมายที่รายล้อมเกาะหลักอีกด้วยเช่นกัน

หากพูดถึงที่ดินยอดนิยมแล้วก็มีอยู่หลายแห่งด้วยกันและมีธีมที่โดดเด่น เช่น Glass Age, Space Age, และ The Metalith Throne ซึ่งที่ดินเหล่านี้ตั้งอยู่ใกล้กันและกัน อีกทั้งยังใกล้กับใจกลางเมือง Origin City อย่างไรก็ตามหากใช้เกณฑ์การเข้าถึงที่ดินนั้นจะเห็นว่า Glass Age และ Space Age มีผู้เข้าชมมากกว่า 120,000 ครั้ง และ The Metalith Throne มีผู้เข้าชมประมาณ 50,000 ครั้งด้วยกัน

สินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ที่ผู้ใช้สามารถซื้อใน CryptoVoxels ได้แก่:

• แปลงที่ดิน - ที่ดินแต่ละแปลงใน CryptoVoxels มีสถานะเป็น Non-Fungible Token (NFT, ERC-721) ดังนั้นมันจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้อย่างสิ้นเชิงเช่นเดียวกันที่ดินบนโลกแห่งความจริง และไม่ว่าใครก็สามารถซื้อหรือขายที่ดินได้ทั้งสิ้น เนื่องจากรายการธุรกรรมทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ใน Ethereum Blockchain จึงทำให้คุณเป็นเจ้าของที่ดินอย่างเป็นทางการ โดยเจ้าของที่ดินสามารถแก้ไข เพิ่ม ลบ และปรับปรุงบล็อกต่าง ๆ บนที่ดินของตนเองได้อย่างอิสระ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือพวกเขาสามารถสร้างและพัฒนาอะไรก็ได้บนแปลงที่ดินของตนเองได้ตามใจชอบ
• อวตาร์ (Avatar) - เช่นเดียวกับในโลกเสมือนจริงของแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่ผู้ใช้งาน CryptoVoxels จะอยู่ในรูปแบบของอวตาร์ที่เป็นตัวแทนของตนเอง ผ่านการปรับแต่งให้เข้ากับสไตล์และความชอบของตนเอง ซึ่งอวตาร์ใน CryptoVoxels จะอยู่ในสถานะ NFT ที่ไม่สามารถทำซ้ำ ลอกเลียน หรือปลอมแปลงได้ แต่สามารถซื้อ เป็นเจ้าของ และขายได้
• เครื่องแต่งกาย (Wearable) - เครื่องแต่งกายทั้งหมดใน CryptoVoxels มีสถานะเป็น NFT ที่สามารถใช้สวมใส่เป็นเครื่องประดับเพื่อจัดรูปแบบอวตาร์ของตนเองได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ชุมชน CryptoVoxels (ส่วนใหญ่ประกอบด้วยนักพัฒนา ศิลปิน และผู้เผยแพร่ Metaverse) มีอิสระในการสร้าง ออกแบบ และขายเครื่องแต่งกายของตนเองได้ ดังนั้นเครื่องแต่งกายในแพลตฟอร์มจึงมีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกัน ตั้งแต่เสื้อผ้าไปจนถึงเครื่องประดับ โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้สนุกและสะดุดตาสำหรับอวตาร์ของตนเองได้

ก่อนเดือนมิถุนายน 2020 โทเคน COLR หรือ $COLR คือโทเคนประจำเครือข่ายของ CryptoVexels โดยโทเคนดังกล่าวจะถูกใช้เพื่อเพิ่มบล็อกสีบนที่ดินได้ อย่างไรก็ตามหลังจากที่บล็อกสีเปิดให้ทุกคนใช้ฟรีมาสักระยะหนึ่ง ในที่สุดแพลตฟอร์มก็ได้ยุติการสนับสนุนหรือใช้โทเคน COLR อย่างเป็นทางการ โดยในปัจจุบันโทเคน COLR ได้ถูกแทนที่ด้วย Ethereum (ETH) ซึ่งใช้สำหรับการทำธุรกรรมในเครือข่าย เช่น การซื้อที่ดิน การซื้อเครื่องแต่งกาย และบริการอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้โทเคน COLR ที่ถูกซื้อไปก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม 2020 จะถูกแลกเปลี่ยนเป็น ETH ในอัตราส่วน 1 ETH : 4000 COLR

1. CryptoVoxels สามารถครองตลาดโลกเสมือนจริงบน Ethereum ได้ - CryptoVoxels ได้กลายเป็นหนึ่งในโลกเสมือนจริงที่โดดเด่นที่สุดบนเครือข่าย Ethereum Blockchain ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้แนวทางแบบต้นทุนน้อย เน้นการเติบโตโดยธรรมชาติ และได้ค้นพบความเหมาะสมของตลาดผลิตภัณฑ์ภายในชุมชนของ Cryptoart แล้ว โดยหากทีมพัฒนายังคงทำผลงานได้ดีเช่นเดิม CryptoVoxels อาจสามารถเทียบเคียงหรือยิ่งใหญ่กว่า Decentraland Metaverse ที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบันก็เป็นได้
2. CryptoVoxels มีความเข้ากันได้ในตัวเอง - ไม่ว่าใครก็สามารถคาดหวังว่าจะได้รับประสบการณ์เดียวกันบน CryptoVoxels ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้งานผ่านโหมด VR หรือ 2D บนเดสก์ท็อปหรือโทรศัพท์มือถือของคุณก็ตาม นอกจากนี้แล้วยังสามารถเข้ากันได้กับแว่น VR Headset ยอดนิยมอีกด้วย เช่น Oculus Quest, Oculus Rift และ HTC Vive เป็นต้น ซึ่งในเร็ว ๆ นี้ระบบจะมีการผสานรวมกับเทคโนโลยีความจริงเสริม (AR) เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของคุณอีกด้วย
3. CryptoVoxels นำเสนอหนึ่งในประสบการณ์การเริ่มต้นใช้งานที่ดีที่สุด - CryptoVexels เป็นหนึ่งในโลกเสมือนจริงที่ใช้งานง่ายและเป็นมิตรที่สุดสำหรับผู้เล่นที่ต้องการสร้างสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินของตนเอง เนื่องจากคุณไม่จำเป็นต้องมีฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์พิเศษใด ๆ สำหรับการเริ่มต้นใช้งาน ซึ่งคุณสามารถเริ่มต้นสร้างได้ทันทีโดยใช้อินเทอร์เฟซแบบลากและวางที่ใช้งานได้ง่ายบนแพลตฟอร์ม อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ในการเขียนโปรแกรมใด ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ที่ดินของคุณสามารถเปลี่ยนสถานะเป็น Sandbox ที่สามารถเชิญศิลปินหรือใครก็ตามมาสร้างอะไรบนที่ดินของคุณก็ได้ หากคุณไม่อยากสร้างด้วยตนเอง ถือว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างสรรค์โลกเสมือนจริงของตนเอง